กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ตำรวจ

จริยธรรม

หน้าที่

สิทธิ

เสรีภาพ

ไม่ขัดหรือแย้งต่อนโยบายของรัฐบาล

ไม่กระทบกระเทือนหรือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐ

ไม่กระทบกระเทือนต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน

ไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น

ต้องระบุเหตุผลความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพด้วย

เป็นไปตามเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

มุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่กรณีใดกรณีหนึ่งหรือแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเจาะจง

ไม่ขัดต่อหลักนิติธรรมไม่เพิ่มภาระหรือจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุและจะกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของบุคคลมิได้

คำสั่งทางปกครองอาจทําเป็นหนังสือหรือวาจาก็ได้

การทำคำสั่งทางปกครองเจ้าหน้าที่ไม่จำต้องจัดให้มีเหตุผล

คำสั่งทางปกครองที่ทําเป็นหนังสือยต้องระบุวัน เดือนและปีที่ทำคำสั่ง ชื่อและตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ผู้ทําคำสั่งพร้อมทั้งมีลายมือชื่อของเจ้าหน้าที่ผู้ทําคำสั่งนั้น 

กรณีที่คําสั่งทางปกครองเป็นคําสั่งด้วยวาจาถ้าผู้รับคําสั่งร้องขอโดยมีเหตุอันสมควรภายใน 7 วันนับแต่วันที่มีคําสั่งเจ้าหน้าที่ผู้ออกคําสั่งต้องยืนยันคําสั่งนั้นเป็นหนังสือ

การกระทำทางปกครองในทางกฎหมายแบ่งเป็น2 ลักษณะคือในลักษณะที่เป็นนิติกรรม (JuristicAct) ซึ่งเป็นการแสดงออกซึ่งเจตนาของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่มุ่งจะผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคลและในลักษณะที่เป็นปฏิบัติการทางปกครอง(Real Act) ที่เป็นปฏิบัติการนั้นเป็นการกระทำที่ใช้กำลังทางกายภาพเข้าดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามสิทธิและหน้าที่เช่น การรื้อสิ่งปลูกสร้างในคูคลองสาธารณะที่ปลูกสร้างผิดกฎหมาย เป็นต้น

ทั้งคำสั่งทางปกครองและกฎต่างก็เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ที่มีผลเป็นการสร้างนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างฝ่ายปกครองกับผู้รับคำสั่งในอันที่จะก่อเปลี่ยนแปลง โอน สงวน ระงับหรือมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลในลักษณะที่มีผลบังคับเฉพาะกรณี

การกระทำทางปกครองคือผลิตผลของการใช้อำนาจรัฐตามกฎหมายขององค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายปกครอง เป็นการกระทำทางบริหารประเภทหนึ่งที่ใช้อำนาจปกครองตามกฎหมายระดับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญหรือพระราชบัญญัติในการจัดทำบริการสาธารณะเพื่อสนองความต้องการของส่วนรวมโดยตกอยู่ภายใต้การควบคุมตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมาย

นิติกรรมทางปกครองแบ่งเป็น นิติกรรมฝ่ายเดียว คือ คำสั่งทางปกครองและกฎ และนิติกรรมสองฝ่าย คือสัญญาทางปกครอง ซึ่งเป็นสัญญาที่คู่สัญญาอย่างน้อยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครองหรือเป็นบุคคลซึ่งกระทำการแทนรัฐและมีลักษณะเป็นสัญญาสัมปทาน สัญญาที่ให้จัดทำบริการสาธารณะสัญญาจัดให้มีสิ่งสาธารณูปโภค สัญญาที่แสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติสัญญาที่หน่วยงานทางปกครองหรือบุคคลซึ่งกระทำการแทนรัฐตกลงให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเข้าดำเนินการหรือเข้าร่วมดำเนินการจัดทำบริการสาธารณะโดยตรงหรือสัญญาที่มีข้อกำหนดในสัญญาซึ่งมีลักษณะพิเศษที่แสดงถึงเอกสิทธิ์ของรัฐเพื่อให้บริการสาธารณะ

2 ประเภท

3 ประเภท

4 ประเภท

1 ประเภท

เพื่อให้การปฏิบัติราชการของเจ้าหน้าที่มีมาตรฐานเดียวกัน

เพื่อสร้างกลไกในการควบคุมเชิงป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจตามอำเภอใจ

เพื่อให้เกิดมาตรฐานเดียวกันในการปฏิบัติราชการของเจ้าหน้าที่

เพื่อให้ผู้รับคำสั่งทางปกครองปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้รับอย่างเคร่งครัด

คำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

คำสั่งให้หรือไม่ให้ทุนการศึกษาบุตรข้าราชการ

คำสั่งให้นำเงินส่วนที่รับเกินไปมาคืนให้แก่ส่วนราชการ

สัญญาณมือของเจ้าพนักงานจราจรที่สั่งให้รถหยุด

60 วันนับแต่วันที่รับแจ้งคำสั่ง

15 วันนับแต่วันที่รับแจ้งคำสั่ง

30 วันนับแต่วันที่รับแจ้งคำสั่ง

7 วันนับแต่วันที่รับแจ้งคำสั่ง

สัญญาจ้างที่ศูนย์ฝึกอบรมให้เอกชนเข้าดำเนินการก่อสร้างอาคารบ้านพักอาศัยของทางราชการ

สัญญาจ้างที่เทศบาลตกลงให้บริษัทเอกชนจัดทำป้ายบอกทางป้ายชื่อตรอก - ซอย ในเขตพื้นที่

สัญญากู้ยืมเงินระหว่างกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.)กับผู้กู้ยืม

สัญญาชดใช้ทุนของนักเรียนนายสิบตำรวจ

นิติกรรมทางปกครองไม่มีแบบและขั้นตอนกำหนด ในการทำนิติกรรมทางปกครองจะกระทำในรูปแบบใดก็ได้ย่อมมีผลสมบูรณ์ทั้งสิ้น

ความสมบูรณ์ของการแสดงเจตนาต้องไม่มีความบกพร่องในการแสดงเจตนา อาทิ ไม่เกิดจากการถูกฉ้อฉลไม่สำคัญผิดหรือไม่ถูกข่มขู่

เจ้าหน้าที่ที่ทำนิติกรรมต้องมีอำนาจตามกฎหมาย

วัตถุประสงค์ของนิติกรรมทางปกครองต้องมีวัตถุประสงค์ที่เป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะไม่ขัดต่อกฎหมาย

การดำเนินงานตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญา

รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี

หน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ ข้าราชการของรัฐ

การดำเนินงานเกี่ยวกับราชการทหารหรือเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ทางยุทธการร่วมกับทหารในการป้องกันและรักษาความมั่นคงของราชอาณาจักร

เคยเป็นผู้รับบุตรบุญธรรม

เป็นคู่กรณีเอง

เป็นเพื่อนสนิท

เป็นเจ้าหนี้

สิทธิที่จะได้ตรวจเอกสารของเจ้าหน้าที่

สิทธิได้รับการพิจารณาจากเจ้าหน้าที่โดยเร็วแต่ไม่มีสิทธิคัดค้านหรือโต้แย้งเกี่ยวกับความเป็นกลางของเจ้าหน้าที่

สิทธิได้รับทราบเหตุผลของคําสั่ง

สิทธิที่จะโต้แย้งแสดงพยานหลักฐาน

ให้เจ้าหน้าที่ผู้ทําคําสั่งพิจารณาคําอุทธรณ์และแจ้งผู้อุทธรณ์โดยไม่ชักช้าแต่ต้องไม่เกิน 60 วันนับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์

ให้คู่กรณีอุทธรณ์คําสั่งทางปกครองนั้นโดยยื่นต่อเจ้าหน้าที่ผู้ทําคําสั่งทางปกครองภายใน 15 วันนับแต่วันที่ตนได้รับแจ้งคําสั่ง

คําอุทธรณ์ต้องทําเป็นหนังสือโดยระบุข้อโต้แย้งและข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่อ้างอิงประกอบ

กรณีที่เห็นด้วยกับคําอุทธรณ์ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนก็ให้ดําเนินการเปลี่ยนแปลงคําสั่งทางปกครองตามความเห็นของตนภายในกําหนดเวลาที่กฎหมายกำหนด